ดอกขจร
“ดอกขจร” เป็นส่วนที่ใช้จากพืชขจร (Tamarindus indica) ซึ่งเป็นพืชที่มีลักษณะต้นใบเล็กและดอกสีชมพูหรือสีขาวที่มีลักษณะเป็นก้านสั้นๆ และมีดอกเล็กๆ ค่อยๆ ปรากฏออกมาบนก้าน ในส่วนของดอกขจรที่ใช้งานมักจะเป็นดอกที่ยังไม่ติดผล (ดอกที่ยังไม่เป็นลูก) ซึ่งมีลักษณะเป็นดอกขนาดเล็กสีชมพูหรือสีขาว และมีลักษณะรูปร่างเล็กๆ และมีกลิ่นหอมเบาๆ ดอกขจรสามารถนำมาใช้ในการทำอาหารหรือเครื่องดื่ม เช่น ใส่ในต้มยำและน้ำพริกเผา หรือใช้ทำเค้ก ขนมปัง หรือเครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ดอกขจรยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร บางอย่าง เช่น มีสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ และมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายได้ด้วย อย่างไรก็ตามการใช้งานทางการแพทย์ของดอกขจรยังไม่มีหลักฐานวิชาการมากพอที่จะรับรองความเป็นไปได้และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ที่เกี่ยวข้องก่อนการใช้งาน
ดอกบุญนาค
“ดอกบุญนาค” เป็นชื่อท้องถิ่นในภาษาไทยที่ใช้เรียกชื่อของสมุนไพรที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Plumeria” หรือ “Frangipani” ในภาษาอังกฤษ พบการใช้งานมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย ดอกบุญนาคมีลักษณะดอกใหญ่ มีกลิ่นหอมโรงเรียนและเป็นดอกที่สวยงาม มักถูกนำมาปลูกเป็นพืชประดับสวนหรือใช้ในพิธีกรรมศาสนาหรือทางวัฒนธรรม และมักถูกนำมาใช้ในการทำพวงมาลัยในงานพิธีสำคัญ และนอกจากนี้ ดอกบุญนาคยังมีสรรพคุณ ทางสมุนไพรบางประการ เช่น ใช้ในการรักษาผื่นคัน การแก้ปัญหาผิวหนังที่อ่อนแอ และการลดการอักเสบในผิวหนัง อย่างไรก็ตามควรใช้ดอกบุญนาคในวิธีการที่ถูกต้องและไม่ควรนำไปใช้ในการรักษาโรคโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
ดอกโสน
“ดอกโสน” หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Marigold” เป็นพืชสวนที่มีดอกสีสว่างและสวยงาม มักถูกนำมาปลูกเป็นพืชประดับสวนหรือใช้ในการตกแต่งพิธีการต่าง ๆ มีความนิยมในการปลูกในประเทศไทยและทั่วโลก สรรพคุณของดอกโสน ทางสมุนไพรอีกด้วย เช่น ใบและดอกโสนมีสารสำคัญอย่างลูทีนที่มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น ทำให้มีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบ ลดการอักเสบในผิวหนัง และช่วยรักษาแผลเป็นที่ดี เป็นต้น